เทวรูปเทพเจ้าซีอุส

เทวรูปเทพเจ้าซีอุสกับเทวรูปเทพเจ้าเฮลิออส (อะพอลโล่)

      เทวรูปเทพเจ้าซีอุส สถานที่ตั้งคือ เมืองโอลิมเปีย ประเทศกรีซ ปัจจุบัน ไม่เหลือซาก
      อนุสาวรีย์นี้เป็นรูปสลักเทพเจ้าซีอูส นั่งบนบัลลังก์สีทองที่แกะสลักด้วยงาช้างจำนวนมากมาประกอบกันขึ้น ผู้ที่ปั้นเทวรูปซีอุสนี้ เป็นปฏิมากรเอกชาวกรีก ชื่อ ฟีดีอัส เป็นคนเดียวกับที่สร้างวิหารพาเธนอน ในกรุงเอเธนส์ และสนามกีฬาโอลิมปิค เทวรูปซีอุส เป็นสิ่งมหัศจรรย์ยุคเก่าแก่สิ่งหนึ่งของโลก คือ สร้างขึ้นประมาณ 2,400 ปีก่อน ระหว่งปี ค.ศ. 53 - 111 ตามตำนานที่จารึกไว้ได้ระบุว่าเทวรูปทำจากงาช้างสูง 58 ฟุต มีขนาดใหญ่กว่าคนปรกติถึง เท่า พระหัตถ์ซ้ายทรงคทา พระหัตถ์ขวารองรับ รูปปั้นแห่งชัยชนะ (A small figure of Victory ) มีเครื่องประดับ ประดาด้วยทองคำล้วน  ชาวโรมันเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า จูปีเตอร์ ชาวกรีกได้เรียกเทวรูปนี้ว่า ซุส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นผู้นำแห่งเทพเจ้า ชาวกรีกนับถื่อมากที่สุดในยุคนั้น ใครจะออกเดินทางไปเมืองใดต้องมาพรจากพระองค์เสียก่อน   แต่บัดนี้ไม่มีหลักฐานให็เป็นที่ชมได้เพราะได้ถูกไฟเผาไหม้หมดทั้งองค์ในปี ค.ศ. 476 คงเห็นภาพในเหรียญ ตราโบราณ และจากจินตนาการที่ได้มาจากคำบอกเล่า หรือ นิยายปรัมปราเท่านั้น แต่ความงาม ความใหญ่โตศักดิสิทธิ์ ยังคงเป็นที่ยกย่องเล่าลือมาจนถึงปัจจุบันนี้
                                                   

     เทวรูปเทพเจ้าเฮลิออส (อะพอลโล่) สถานที่ตั้ง คือ เกาะโรดส์ ประเทศกรีซ ปัจจุบัน ไม่เหลือซาก 
     เป็นรูปของเทพเจ้าเฮลิออส หรือ อพอลโล สูงถึง 105 ฟุต หรือ 32 เมตร ละหนักถึง 295 ตัน หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ในท่ายืน ตัวเทวรูปตั้งอยู่บนฐานทั้งสองข้างของปากอ่าว องค์เทวรูปยืนถ่างคร่อมปากอ่าว ให้เรือลอดไปมาได้ มีกระจกบานใหญ่ติดอยู่บน อกทำให้เรือที่แล่นออกจากอียิปต์มองเห็นได้ชัดเจน
     ประวัติความเป็นมาของรูปปั้นมหึมานี้ ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยปี 312 ก่อนคริสตกาล ชาวเกาะโรดส์ได้ตัดสินใจ ร่วมรบกับพระเจ้าปโตเลมีแห่งอียิปต์ จากการรุกรานของชาวแมซีโดเนียน พวกแมซีโดเนียนเข้าล้อมเกาะไว้ด้วยเรือและทหาร มากมาย แต่ชาวเกาะโรดส์ก็ได้ตีกลับ และเกิดการปะทะกันอยู่เกือบปีจนได้รับชัยชนะ ในบรรดาผู้ที่ร่วมปกป้องเกาะโรดส์ก็มี ปฏิมากรผู้หนึ่งชื่อว่า ชาเรส แห่ง ลินดัส ด้วยความยินดีปรีดาของชาวโรดส์ และเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการหลุดพ้นจากชาว แมซีโดเนียน ชาร์เรส จึงได้รับมอบหมายให้สร้างรูปปั้นบรอนซ์มหึมาของเทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์หรืออพอลโล เฮลิออส หรือ อพอลโล เป็นเทพเจ้าแห่งศิลปะของชาวกรีกและโรมันสมัยโบราณ ถือกันว่าสวยที่สุดในจำพวกผู้ชาย รูปปั้นนี้มีชื่อว่า โคลอสซัส หล่อขึ้นมาจากโลหะต่างๆ ที่เหลือจากการสงครามและชาวแมซีเนียนทิ้งไว้ ชาเรสทำงานหนักตลอดเวลา 12 ปี ทุ่มเทให้กับรูปปั้นนี้ แต่มีเรื่องเล่าว่าพอรูปปั้นนี้เสร็จเขาก็ได้พบว่าคำนวณสัดส่วนผิดไป ชาเรสผิดหวังมากถึงกับปลิดชีพตัวเอง แต่รูปปั้นโคลอสซัสนี้ก็มีชื่อเสียงมากถึงกับเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
     รูปปั้นโคลอสซัสมีอายุสั้นที่สุดเพียว 56 ปีเท่านั้น แผ่นดินไหวเมื่อ 224 ปีก่อนศริสกาลทำให้รูปปั้นมหึมาพัง ทลายลงมาระเนระนาด ชิ้นส่วนต่าง ๆ ยังคงหลงเหลืออยู่ในต้นศตวรรษแรกเมื่อพวกอาหรับยึดครองเกาะโรดส์ในสมัย ศตวรรษที่ รูปปั้นโคลอสซัสถูกขายต่อไปยังพ่อค้าชาวยิว การขนย้ายต้องใช้อูฐเป็นร้อยและวนเวียนถึงเก้าเที่ยว